14 แอปพลิเคชันที่ไปเกาหลีต้องรู้ นักเดินทางในเกาหลีต้องมีติดเครื่อง
เกาหลีใต้ไม่ได้มีดีแค่ป๊อปคัลเจอร์หรืออาหารอร่อยชวนหลงใหลเท่านั้น แต่ยังเป็นสวรรค์ของคนที่อยากสวยครบวงจรอีกด้วย ถ้าคุณกำลังวางแผนไปศัลยกรรมที่เกาหลี แต่ก็อยากเที่ยวให้สนุกและราบรื่นไปพร้อมกัน บทความนี้คือคู่มือที่คุณต้องมี ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกิน สายเที่ยว สายช้อป หรือสายไหน ๆ เราได้รวบรวม 14 แอปพลิเคชันที่นักเดินทางและสายศัลยกรรมในเกาหลีต้องมีติดเครื่องไว้ให้แล้ว รับรองว่าทริปสวยและทริปเที่ยวของคุณจะง่าย สะดวก และฟินกว่าเดิมแน่นอน เตรียมมือถือให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่ามีแอปอะไรบ้างที่คุณห้ามพลาด
1. K-ETA

สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่วางแผนจะไปเกาหลี แอปแรกที่ต้องมีติดเครื่องเลยคือ K-ETA เพราะว่าคนไทยอย่างเรา ๆ ต้องลงทะเบียน K-ETA ทุกครั้งก่อนเดินทางเข้าเกาหลี ไม่อย่างนั้นอาจจะเข้าประเทศไม่ได้ ซึ่งแอปนี้จะช่วยให้เช็กผลการลงทะเบียน K-ETA ได้ง่าย ๆ หรือจะเข้าไปแก้ไขที่อยู่โรงแรมก็สะดวกสุด ๆ ที่สำคัญคือ ตม. เกาหลีจะใช้ข้อมูลที่คุณกรอกในระบบนี้เป็นหลักในการพิจารณาให้คุณเข้าประเทศนั่นเอง เพราะฉะนั้น ดาวน์โหลดแอป K-ETA ติดเครื่องไว้ แล้วเช็กผลให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง มั่นใจได้เลยว่าทริปเกาหลีของคุณจะราบรื่นแน่นอน
2. Creatrip

Creatrip แอปนี้จะทำให้คุณเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวได้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นการจองกิจกรรมต่าง ๆ, นัดหมายเรื่องนู้นเรื่องนี้, เช็กอัตราแลกเปลี่ยน, สั่งซื้อของให้ส่งตรงถึงที่พัก หรือแม้แต่สมัคร K-ETA ก็ทำได้หมด พูดง่าย ๆ คือ ไม่ว่าคุณอยากทำอะไรในเกาหลี แอปนี้แอปเดียวก็เอาอยู่ รับรองว่าคุณจะต้องมี Creatrip ติดมือถือไว้ เพื่อให้ทริปเกาหลีของคุณสนุกและสะดวกสบายแบบเต็มพิกัดแน่นอน
3. BucaCheck

เคยไหมที่ถือบัตรโดยสารอยู่แล้วไม่แน่ใจว่าเหลือเงินเท่าไหร่ จะเดินทางทีก็กลัวเงินไม่พอ ต้องไปหาเครื่องเติมเงินให้วุ่นวาย ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเลยถ้ามีแอป BucaCheck ด้วยแอปนี้ จะสามารถเช็กยอดเงินคงเหลือในบัตรโดยสารได้ง่าย ๆ ตลอดเวลา แค่สแกนบัตรผ่านแอปเท่านั้นเอง
4. Subway

ถ้าคุณกำลังจะเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในเกาหลี แอปสีฟ้าที่มีรูปรถไฟที่ชื่อว่า Subway แอปนี้ใช้งานง่ายมาก ๆ แค่เลือกสถานีต้นทางและปลายทางที่ต้องการไป แอปก็จะคำนวณเส้นทางที่เร็วที่สุดให้ทันที หรือถ้าคุณไม่ชอบเปลี่ยนขบวนบ่อย ๆ ก็สามารถเลือกเส้นทางที่ไม่ต้องเปลี่ยนได้ด้วย แถมยังบอกค่าโดยสารให้พร้อมสรรพ ไม่ต้องกลัวหลงหรืองงเลย รับรองว่าคุณจะเดินทางในเกาหลีได้อย่างสบายใจแน่นอน
5. Naver Map

อีกแอปที่บอกเลยว่าต้องมีจริง ๆ ก็คือ Naver Map แอปนี้สำคัญมาก เพราะถ้าไม่มีรับรองว่าจะเดินทางลำบากสุด ๆ โดยเฉพาะสายคาเฟ่ สายกิน หรือใครที่ชอบตามรอยพิกัดถ่ายรูปสวย ๆ ยิ่งจำเป็น เพราะที่เกาหลีไม่ได้ใช้ Google Map ในการเดินทางเหมือนบ้านเรา เพราะฉะนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเราที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยเส้นทาง Naver Map จึงตัวช่วยที่ดีที่สุดที่จะพาไปทุกที่ที่อยากไปได้อย่างง่ายดาย เตรียมดาวน์โหลดติดเครื่องไว้ แล้วสนุกกับการเดินทางในเกาหลีได้เต็มที่
6. Naver Papago

สำหรับนักท่องเที่ยวสายลุยที่ชอบเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ห้ามพลาดแอป Naver Papago เด็ดขาดเลย เพราะเป็นแอปแปลภาษาเกาหลีที่ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำสูงมาก ๆ ท้้งยังใช้เทคโนโลยี AI และ Deep Learning สุดล้ำมาช่วยในการแปล ซึ่งฟีเจอร์การแปลก็คล้ายกับ Google Translate ไม่ว่าจะเป็นการแปลข้อความ เสียงพูดที่คุณพูดเข้าไป (Speech-to-Text) การแปลจากภาพถ่าย (Image Translation) หรือแม้แต่แปลเอกสารก็ทำได้หมด นอกจากภาษาเกาหลีแล้ว Papago ยังรองรับภาษาอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และอีกมากมาย เรียกว่ามีแอปเดียว สบายใจเรื่องภาษาแน่นอน
7. T Locker

ไปเกาหลีทั้งที เรื่องช้อปปิ้งนี่แหละคือไฮไลต์สำคัญ แต่ปัญหาโลกแตกที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เจอคือต้องถือถุงช้อปปิ้งพะรุงพะรัง หรือลากกระเป๋าเดินทางไปมาให้เมื่อยแขน ข่าวดีก็คือ เกาหลีมีระบบล็อกเกอร์สุดเจ๋งที่บริหารจัดการโดย T Locker ให้คุณเก็บของได้ในราคาที่สมเหตุสมผล
ตู้เก็บของเหล่านี้มีอยู่ทั่วกรุงโซล โดยเฉพาะตามสถานีรถไฟใต้ดิน ที่สำคัญคือ ถ้าคุณมีแอป T Locker คุณจะสามารถเช็กได้เลยว่ามีตู้ล็อกเกอร์อยู่ตรงไหนบ้าง มีช่องว่างเหลือเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ที่เด็ดกว่านั้นคือ สามารถจองพื้นที่ล็อกเกอร์ล่วงหน้าผ่านแอปได้เลยถ้าชำระเงินผ่านแอป ทีนี้จะช้อปปิ้งหนักแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหิ้วไม่ไหว
8. Kakao T

ถ้าคุณกำลังมองหาแอปเรียกแท็กซี่ในเกาหลีที่สะดวกสบายและไว้ใจได้ ต้อง Kakao T แอปนี้พัฒนาโดย Kakao บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ และเป็นที่นิยมที่สุดในประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่ามีคนขับเยอะ โอกาสเรียกรถสำเร็จสูงแน่นอน ที่สำคัญคือมีตัวเลือกภาษาอังกฤษ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้งานง่ายสุด ๆ แถมยังมีฟีเจอร์แปลภาษาในตัว ช่วยให้คุณสื่อสารกับคนขับได้ราบรื่น แม้จะไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยก็ตาม ส่วนเรื่องการชำระเงินก็หายห่วง เพราะรองรับทั้งเงินสดและบัตรเครดิตครบครัน ใครที่อยากเดินทางท่องเที่ยวแบบชิล ๆ ลองโหลด Kakao T มาใช้ดู รับรองไม่ผิดหวัง
9. Klook

ถ้าคุณเป็นสายเที่ยวที่ชอบวางแผนล่วงหน้าและเน้นไปสถานที่สำคัญต่าง ๆ ต้องมีแอป Klook ติดเครื่องไว้เลย แอปนี้เป็นที่นิยมมาก ๆ ในเอเชีย รวมถึงเกาหลี เพราะช่วยให้คุณจองกิจกรรมท่องเที่ยวและบริการต่าง ๆ ได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอย่างสวนสนุก พิพิธภัณฑ์ หรือทัวร์นำเที่ยวทั้งแบบกลุ่มและส่วนตัว แถมยังจองบัตรโดยสารรถไฟและระบบขนส่งสาธารณะได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสามารถจองประสบการณ์ทางวัฒนธรรมเกาหลีแท้ ๆ อย่างคลาสทำอาหาร หรือการลองใส่ชุดฮันบกสวย ๆ ไปจนถึงบริการรับ-ส่งสนามบิน และซื้อซิมการ์ดได้อีกต่างหาก เรียกได้ว่ามี Klook แอปเดียวก็เอาอยู่ทุกเรื่องการเดินทางเลย
10. Coupang Eats

ถ้าใครพึ่งศัลยกรรมแล้วอยากพักผ่อนสบาย ๆ ที่โรงแรม ไม่อยากออกไปหาอะไรกินข้างนอก ต้องมีแอปสั่งอาหารเดลิเวอรี่ติดมือถือไว้ แนะนำ Coupang Eats ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ ในเกาหลี แอปนี้มีร้านอาหารให้เลือกหลากหลายสุด ๆ ทั้งอาหารเกาหลีแท้ ๆ อาหารนานาชาติ หรือแม้แต่ร้านอาหารท้องถิ่นเล็ก ๆ ที่อาจไม่เจอในแอปอื่น จุดเด่นอีกอย่างคือความเร็วในการจัดส่งที่ขึ้นชื่อมาก ๆ โดยเฉลี่ยประมาณ 30 นาทีเท่านั้นเอง แถมยังมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติอย่างเรา ๆ และรองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือจะจ่ายผ่านแอปอื่น ๆ ก็ได้สะดวกมาก ๆ
11. Mango Plate

ไปเกาหลีทั้งที แน่นอนว่าต้องไม่พลาดตระเวนชิมอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ รวมถึงการ Cafe Hopping ที่มีอยู่ทั่วเมือง Mango Plate คือแอปรีวิวร้านอาหารชั้นนำของเกาหลี ที่จะช่วยให้คุณค้นหาร้านเด็ดในละแวกที่อยู่ได้อย่างง่ายดาย มีรีวิวจากผู้ใช้จริงพร้อมรูปภาพอาหารยั่วน้ำลายเพียบ แถมยังมีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษอีกด้วย สะดวกสุด ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวแบบเรา ๆ ไม่ต้องกลัวสื่อสารไม่รู้เรื่อง แค่มี Mango Plate ทริปกินของคุณในเกาหลีก็ฟินแน่นอน
12. Agoda

ไปเที่ยวเกาหลีทั้งทีก็ต้องมีตั๋วเครื่องบินกับที่พัก ขอแนะนำ Agoda แอปนี้เป็นผู้นำด้านการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินที่เหมาะสุด ๆ สำหรับการวางแผนเที่ยวเกาหลี Agoda มีตัวเลือกที่พักให้เลือกเพียบ ตั้งแต่โรงแรมหรูหราไปจนถึงโฮสเทลราคาเบา ๆ พร้อมระบบค้นหาและตัวกรองที่ใช้ง่ายสุด ๆ นอกจากนี้ ยังจองตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีจากสายการบินต่าง ๆ ได้ด้วย ช่วยให้คุณเปรียบเทียบราคาและเลือกเที่ยวบินที่ใช่ได้สบาย ๆ ที่สำคัญ
13. NAMANE Card

เบื่อไหมกับการพกเงินสดเยอะ ๆ แถมไม่รู้ว่าใช้ไปเท่าไหร่แล้ว? ถ้าไปเกาหลี ลองใช้ NAMANE Card เพราะแอปนี้เหมือนมีบัตรเดบิตส่วนตัวในเกาหลีเลย ไม่ใช่แค่ใช้จ่ายได้ตามร้านอาหาร ร้านค้า คาเฟ่ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นบัตรโดยสารรถสาธารณะอย่าง T-money (ขึ้นรถไฟใต้ดิน, รถบัส ฯลฯ) ได้ด้วย NAMANE เป็นบัตรเติมเงินที่ใช้งานง่ายมาก ๆ แถมยังปรับแต่งหน้าบัตรด้วยรูปหรือดีไซน์ที่ชอบ เติมเงินก็ง่ายผ่านแอปพลิเคชันได้เลย สามารถเช็กยอดเงินคงเหลือและประวัติการใช้จ่ายได้ในแอปฯ ทั้งหมด
14. Visit Korea

มาถึงแอปสุดท้ายที่ห้ามพลาดเลยสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุยที่ชอบเที่ยวเอง นั่นก็คือ Visit Korea แอปนี้เหมือนมีไกด์บุ๊กส่วนตัวอยู่ในมือ เพราะอัดแน่นไปด้วยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเกาหลี ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมน่าสนใจ ร้านอาหารอร่อย ๆ ที่พักสบาย ๆ ไปจนถึงที่เที่ยวลับ ๆ ที่ไม่ควรพลาด แถมยังมีแผนที่บอกเส้นทางและเวลาเดินทางครบครันอีกด้วย เรียกว่ามีแอปเดียวจบ ครบทุกข้อมูลการเดินทางในเกาหลีจริง ๆ
สรุป
สรุปแล้ว แอปพลิเคชันทั้ง 14 ตัวที่เคทแนะนำไป จะทำให้ทริปเกาหลีของคุณง่าย สะดวกสบาย และไม่มีสะดุดแน่นอน ไม่ว่าจะเรื่องการเตรียมตัวขอ K-ETA, การเดินทางไปไหนมาไหน, การสื่อสารกับคนท้องถิ่น, ไปจนถึงเรื่องกิน เที่ยว ช้อปปิ้ง ก็มีตัวช่วยครบครันในมือถือของคุณแล้ว!
แต่ถ้าคุณกำลังวางแผนไปศัลยกรรมที่เกาหลี การมีเอเจนซี่ที่เชื่อถือได้อย่าง SR Surgery จะช่วยให้คุณอุ่นใจและมั่นใจได้มากกว่าการไปเองคนเดียว เพราะนอกจากจะได้รับการบริการดี ๆ อย่างล่ามแปลภาษา, การนัดหมายกับแพทย์, และการดูแลอย่างใกล้ชิดหลังการรักษาแล้ว ทาง SR Surgery ยังให้คำแนะนำการใช้แอปเหล่านี้อย่างเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ รวมถึงการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวระหว่างพักฟื้นอย่างปลอดภัยอีกด้วย บอกเลยว่า SR Surgery จะทำให้ทริปศัลยกรรมและการท่องเที่ยวของคุณสมบูรณ์แบบในทุกมิติ ลูกค้าหลายคนก็รีวิวว่าประทับใจมาก ๆ ถ้าสนใจอยากวางแผนศัลยกรรมต่างประเทศกับ SR Surgery ติดต่อเคทได้เลย







